4. เนื้อสัตว์ยอดฮิต กินอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
เนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ เป็นแหล่งโปรตีน แต่ในเนื้อสัตว์แต่ละชนิด ก็จะมีทั้งประโยชน์ เพื่อจะได้เลือกได้ว่ารับประทานอย่างไร จึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย
- เนื้อหมู :
เนื้อหมู เป็นเนื้อสัตว์ที่เป็นที่นิยมกันมาก เพราะประกอบอาหารได้หลายประเภท
และมีกลิ่นที่หอมและรสชาติที่อร่อย ซึ่งประโยชน์ของเนื้อหมู
นอกจากเป็นแหล่งโปรตีนแล้ว ยังมี วิตามินบี 1 ช่วยลดอาการเหน็บชา
วิตามินเอ บำรุงสายตา ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 3 หรือ ไนอาซิน
ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง อีกด้วย แต่เนื้อหมูก็มีไขมันสูงด้วยเช่นกัน
โดยเนื้อหมูสันใน จะเป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันแทรกน้อยที่สุดและให้โปรตีนสูง
ส่วนเนื้อสันนอกจะมีไขมันมากกว่า และเนื้อส่วนที่มีไขมันมากที่สุดจะเป็นหมูสามชั้น
ตามมาด้วย คอหมู และซี่โครงหมู ซึ่งจะไม่เหมาะกับผู้จะต้องควบคุมน้ำหนัก
หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมัน
- เนื้อวัว : ในเนื้อวัวจะมีปริมาณโปรตีนที่สูง
โดยทั่วไปจะมีโปรตีนร้อยละ 20 ของน้ำหนัก
และมีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด และวิตามินบี 12 ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและสมองเสื่อมอีกด้วย
แต่ในหลายส่วนของเนื้อวัว ก็มีปริมาณไขมันที่สูงเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อวัวโคขุน
หรือเนื้อวัวที่มีลักษณะเป็นลายหินอ่อน ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงไขมัน
ควรเลือกกิน เนื้อสันส่วนบน ซึ่งมีโปรตีนสูงแต่มีไขมันแทรกอยู่น้อย
นอกจากนี้เนื่องจากเนื้อวัวค่อนข้างย่อยยากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น
จึงไม่ค่อยเหมาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
- เนื้อไก่ : เนื้อไก่จัดเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมาก เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย
และมีไขมันน้อย นอกจากนี้ยังมี วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน
ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 12 ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือด รวมทั้งกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนของเนื้อไก่ที่มีโปรตีนสูง
และไขมันน้อยสุด คือ เนื้อส่วนอก แต่สำหรับส่วนสะโพก ปีก และ ตูดไก่
จะเป็นส่วนที่มีไขมันมากอยู่มาก มีส่วนที่ควรระวังคือ ส่วนปีก หรือ เอ็น ข้อต่าง ๆ
เพราะจะมีกรดยูริคสูง ไม่เหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเก๊าท์
และอีกส่วนที่ต้องระวังคือส่วนคอ ซึ่งมีผลวิจัยว่าเป็นส่วนที่พบสารตกค้างมากที่สุด
- เนื้อปลา : เนื้อปลานั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย มีไขมันต่ำ
ปราศจากคาร์โบไฮเดรต มีโอเมกา 3 ช่วยบำรุงสมอง สายตา
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคหัวใจ ทั้งยังมีวิตามินเอ บี และดี มีไอโอดีน
ช่วยป้องกันโรคคอพอก ธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด และแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก
ซึ่งโดยทั่วไปเนื้อปลาเกือบทุกชนิด เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
สามารถรับประทานได้เป็นประจำ โดยควรรับประทานปลาที่ปรุงสุก
เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิต่าง ๆ หากเป็นปลาดิบ จะต้องมั่นใจว่าสด
และเป็นปลาทะเลเท่านั้น