จะปรับตัวอย่างไรเมื่อ Microsoft ประกาศว่าจะไม่มี Microsoft office อีกต่อไปแล้ว

    สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ถ้าท่านติดตามข่าวด้วยไอทีคงจะผ่านตากันมาแล้วบ้างเกี่ยวกับข่าวที่ไมโครซอฟท์ประกาศออกมาว่าต้นปีหน้า 2023 ทางไมโครซอฟท์จะรีแบรนด์จาก Microsoft office เป็น Microsoft 365 แล้วจะกระทบกับการใช้งานของเราอย่างไรบ้าง ถ้าท่านเข้าหน้าเว็บไซต์ www.office.com ท่านจะเห็นประกาศของไมโครซอฟท์ตามที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อดูรายละเอียดเราจะพบว่าทางไมโครซอฟท์จะเริ่มเปลี่ยนในส่วนของเว็บไซต์ก่อนโดยเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2022 โดยจะเปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ใหม่ https://www.microsoft365.com/ แทน และลำดับต่อไปจะเป็นคิวของแอพพลิเคชันบนวินโดว์และอุปกรณ์ mobile devices จะเริ่มในเดือนมกราคม 2023 การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลต่อทุกคนๆที่ใช้งานแอพพลิเคชัน microsoft office ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน Office app for work, school, หรือ personal ซึ่งท่านผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งแต่อย่างใดนะครับ เพราะทางไมโครซอฟท์จะทำการอัปเดตให้โดยอัตโนมัติ สำหรับท่านที่ใช้งาน microsoft office แบบซื้อครั้งเดียวอยู่แล้วนั้นก็จะยังสามารถใช้งานต่อได้ แต่สำหรับท่านที่กำลังจะซื้อ office ใหม่ควรเลือกซื้อแบบไหนดี เรามาดูว่าแต่ละแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ

1. microsoft office 2021 เป็นแบบซื้อขาดจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว ไม่มีส่วนของความสามารถของระบบคลาวด์เช่นการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นๆหรือการจัดเก็บเอกสารบนคลาวด์ โดยจะประกอบไปด้วย 3 เวอร์ชันดังนี้

• 1.1 Office Home & Student 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint ราคาประมาณ 4,200 บาท
• 1.2 Office Home & Business 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint, Outlook ราคาประมาณ 11,200 บาท
• 1.3 Office Professional 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Publisher, Access ราคาประมาณ 15,400 บาท

ข้อดีคือผู้ใช้งานมีความเคยชินกับการใช้งานซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชัน 2016, 2019 ไม่จำเป็นต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน

2. microsoft 365 ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ทางไมโครซอฟท์ผลักดันให้เกิดการใช้งานสูงสุด ถ้าท่านสังเกตุจะพบว่าซอฟต์แวร์ชุดนี้จะถูกแถมมากับโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆนั่นคือเวอร์ชัน Home & Student เพื่อให้ใช้งานได้ฟรีๆไปเลย 1 ปี แต่ microsoft 365 ยังมีเวอร์ชันอื่นๆอีกด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ใช้งาน ดังนี้

2.1 สำหรับการใช้งานส่วนตัว จะประกอบด้วย Microsoft 365 Personal สำหรับผู้ใช้งาน 1 คน และ Microsoft 365 Family สำหรับแชร์การใช้งานให้ผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ 1-6 คน ท่านอาจจะช่วยกันแชร์ค่าซอฟต์แวร์กับกลุ่มเพื่อนๆก็ได้นะครับดูจะเป็นช่องทางที่ประหยัดค่าซอฟต์แวร์ดีครับโดยตกปีนึงไม่เกิน 500 บาทต่อคน

2.2 สำหรับการใช้งานในธุรกิจ จะประกอบด้วย Microsoft 365 Business Basic, Microsoft 365 Business Standard, Microsoft 365 Business Premium หรือถ้าต้องการเฉพาะซอฟต์แวร์ office ก็จะมีเวอร์ชัน Microsoft 365 Apps for business ซึ่งจะมีแค่ Outlook, Word, Excel, PowerPoint, OneNote (รวมถึง Access และ Publisher สำหรับพีซีเท่านั้น)

2.3 สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ก็จะแยกย่อยได้ตามลักษณะขององค์กรเช่น ภาคการศึกษาจะประกอบด้วยเวอร์ชัน Office 365 A1, Office 365 A3, Office 365 A5 หรือถ้าเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรอื่นๆก็จะเป็น Office 365 E1, Office 365 E3, Office 365 E5 และถ้าเปลี่ยนเป็น Microsoft 365 สำหรับองค์กรก็จะมีเวอร์ชัน Microsoft 365 E3, Microsoft 365 E5, Microsoft 365 F3 ให้เลือกใช้งานครับ

หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านอยู่บ้างนะครับ สวัสดีครับ